หนาวแล้วววววววว
พอเริ่มเข้าหน้าหนาว เริ่มมีอากาศเย็นๆเชื่อว่าหลายๆคนคงเริ่มวางแผนการเดินทางเพื่อที่ท่องเที่ยวไว้ในหัวแล้ว และเราก็เชื่ออีกว่าสถานที่ที่คนส่วนใหญ่วางแผนว่าจะไปกันก็คงหนีไม่พ้นภาคเหนือหรือไม่ก็ตามยอดดอยยอดภูที่มีอุณหภูมิต่ำๆใช่มั้ยล่าา แต่หากว่าใครคิดที่จะไปเที่ยวแต่ยังไม่เจอสถานที่ที่ถูกใจเราก็ขอนำเสนอที่นี่เลยค่ะ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าาาา
อุทยานภูหินร่องกล้าเป็นอุทยานที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ โดยภายในอุทยานก็จะมีจุดชมวิว สถานที่ที่เป็นจุดสนใจมากมายซึ่งเราก็จะมารีวิวในจุดต่างๆที่เราได้ไปชมมาให้ได้อิจฉากันเล่นๆนะคะ
จุดแรกของการเข้าอุทยานภูหินร่องกล้าก็คือออ!!!!!ด่านเก็บค่าบำรุงรักษานั่นเองค่าา โดยอัตราค่าบำรุงรักษาจะอยู่ที่บุคคลทั่วไปคนละ40บาท ส่วนนักเรียน นิสิตและนักศึกษาจะเสียคนละ20บาทค่ะ
เมื่อผ่านด่านเก็บค่าบำรุงรักษามาแล้วจุดชมวิวแรกของเรานั่นก็คือออ
.
.
ลานหินแตกค่าา
ลานหินแตกเป็นลานที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกค่ะจึงเป็นจุดที่เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ตกเป็นอย่างยิ่งแต่ก็เป็นที่น่าเสียดายเพราะว่าพวกเราไปถึงลานหินแตกในช่วงสายๆเลยไม่ได้ดูค่ะ แต่ถึงยังไงรูปที่เราถ่ายมาก็สวยอยู่นะคะ
จุดจอดรถของลานหินแตกจะอยู่ที่ริมถนนค่ะ(เป็นลานไม่กว้างมาก โดยข้างจุดจอดรถจะมีสินค้า+ของฝาก+ของกินของชาวบ้านแถวนั้นมาขายค่ะ ถ้าสนใจก็สามารถซื้อได้เลยนะคะ)จากจุดจอดรถเราต้องเดินต่อเข้าไปอีกเพื่อให้ถึงลานหินแตก(โดยส่วนตัวเราคิดว่าไกลพอสมควรค่ะ)ทางเดินจะเป็นพื้นหินที่ไม่เรียบนะคะ(ระมัดระวังด้วยนะคะ)แต่เมื่อเดินทางไปถึงจุดชมวิวแล้วเราคิดว่าคุ้มค่ะ เพราะว่าสิ่งที่เราเจอมันสวยมากกกกกไปชมภาพบรรยายกาศกันเล้ยยย
นี่เป็นเพียงภาพบรรยายกาศเพียงส่วนนึงของลานหินแตกเท่านั้นนะคะเพราะว่าเราถ่ายรูปไว้เยอะมากกก อากาศที่จุดนี้ก็กำลังดีเลยค่ะ เย็นสบายมีลมและแดดเล็กน้อยภาพรวมสำหรับจุดนี้เราคิดว่าโอเคมากๆเลยค่ะ เราใช้เวลากับจุดนี้ไปประมาณ1ชั่วโมงค่ะ
จุดที่เราจะไปต่อไปคือโรงเรียนการเมืองการทหารค่ะโดยเราและชาวแก๊งถึงจุดนี้เวลาประมาณ 14.30น.(พวกเรานำของไปเก็บที่ที่พักที่หมู่บ้านร่องกล้ากันก่อนค่ะ) บริเวณนี้เป็นจุดฝึกสำหรับการรบของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.)ในสมัยก่อนซึ่งบริเวณนั้นจะมีบ้านพักหลังเล็กๆประกอบด้วยฝ่ายต่างๆที่จำเป็นในการรบมีจำนวนทั้งสิ้น31หลัง ปัจจุบันบ้านพักดังกล่าวได้ผุพังไปบ้างตามกาลเวลา จุดนี้ถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์การเมือง และนี่ก็คือภาพบรรยายกาศค่ะ
เมื่อรับชมและเก็บภาพบรรยากาศจนพอใจพวกเราก็ออกเดินทางกันต่อไปที่จุดที่มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายๆจุดรวมกัน(เราไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรค่ะ555)ที่จุดนี้จะมีไกด์คอยนำทางค่ะ(เราสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ไกด์นำหรือเดินกันเอง แก๊งเราเลือกให้ไกด์นำค่ะ)การเดินที่จุดให้ทั่วนี้จะไกลพอสมควรค่ะและจุดแรกที่เราเดินผ่านคือสุสานนักรบ(ไม่ได้หยุดชมค่ะเพราะฝนใกล้จะตกแล้ววว5555) จุดที่2คือผาชูธงค่ะ จุดนี้เป็นจุดที่สูงที่สุดที่เราไปมาค่ะโดยบริเวณยอดผาจะมีธงชาติไทยปักอยู่ซึ่งจากการสอบถามกับทางไกด์ก็ทราบว่าธงชาติไทยที่ปักอยู่นี้จะมีเจ้าหน้าที่นำขึ้นมาเปลี่ยนทุก3เดือนค่ะ ไปชมภาพกันเลยค่า
และนี่ก็คือภาพบรรยากาศจากจุดชมวิวผาชูธงที่พวกเราเก็บมาฝากกันนะคะ(บริเวณหน้าผาไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปนะคะ ห้ามทำตามบุคคลในภาพเด็ดขาดอันตรายมากๆ***)
ไปที่จุดต่อไปกันเลยดีกว่าค่ะ นั่นก็คือ!!!!!!!! ลานหินปุ่มนั่นเองงงงง
จุดนี่ก็จะไกลจากผาชูธงพอสมควรนะคะ ทางเดินก็ค่อนข้างลำบากนิดหน่อย(เราไปช่วงปลายฝนค่ะ ทำให้มีความชื้นตามพื้นดินก็จะลื่นนิดนึง)ระมัดระวังกันด้วยนะคะ ไปชมภาพกันต่อเลยดีกว่าค่ะ😊
ทางเดินจากผาชูธงไปลานหินปุ่มค่ะ
เดินมาถึงลานหินปุ่มกันแล้วค่าาาาา เมื่อมาถึงแล้วสิ่งแรกที่พวกเราทำก็คือการพักผ่อนตามอัธยาศัยและการถ่ายรูปนั่นเองงงง(กลายเป็นทำเนียมปฏิบัติไปแล้วค่า55555)
อากาศตอนที่เราไปถึงลานหินปุ่มถือว่าดีในระดับนึงเลยค่ะหนาวนิดๆมีลมหน่อยๆติดที่ว่าเราไปช่วงปลายฝนต้นหนาวทำให้มีเมฆฝนมาบดบังทัศนียภาพไปบางส่วนแต่ภาพที่ได้ออกมาก็สวยไปอีกแบบนะคะ ให้อารมณ์เหมือนทะเลหมอกเลยยยย
มาถึงจุดชมวิวแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คืออออ การถ่ายรูปรวมแบบชิคๆนั่นเองค่าาา ไปดูกันเล้ยยย
(รูปชุดนี้เราให้พี่ไกด์ถ่ายให้ค่ะ)
เป็นที่น่าเสียดายมากเลยค่ะที่เราอยู่เก็บภาพบรรยากาศนานไม่ได้เพราะพี่ไกด์บอกกับเราว่าฝนใกล้จะตกแล้ว(บริเวณนั้นไม่มีสิ่งก่อสร้างสำหรับหลบฝนค่ะ) ขากลับเราเดินกลับโดยใช้เส้นทางเดิมแต่รอบนี้ต้องเร่งฝีเท้าแข่งกันฝนแต่สุดท้ายพวกเราก็แพ้ค่ะ!!!ทำให้พวกเราต้องเข้าไปหลบฝนที่ผาหว้าค้ำค่ะเพราะฝนตกหนักมากกก
พอฝนเริ่มเบาลงเราก็เริ่มเดินทางกลับกันต่อค่ะ(จริงๆก็คือวิ่งค่ะ5555ทางแอบลื่นด้วยนิดหน่อย)ขากลับเราก็ได้ถ่ายรูปสวยๆตามทางเดินมาฝากด้วยค่ะ ขอเชิญรับชมได้เลยค่าาา
หลังจากเดินทางออกจากจุดนี้แล้วก็ได้เดินทางกลับที่พักของเราที่เราได้เอาของกลับไปเก็บก่อนหน้านี้แล้วด้วยรถยนต์ที่เราจ้างให้คอยรับ-ส่งเราจากที่พักไปยังที่ต่างๆ(อัตราค่าบริการอยู่ที่1200บาท/วัน) เป็นการเดินทางที่...ชื้นๆดีค่ะ5555 ชมภาพได้เลยค่ะ
หลังจากเล่นน้ำกันมาพอสมควรแล้ว(???)เราก็ถึงที่พักกันซักทีนะคะ โดยที่ที่เราไปพักมีชื่อว่า"เพ็ญนภา"ค่ะ เป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ค่ะ พักได้8-12คนค่ะ(มีฟูกเสริมให้)เราสามารถประกอบอาหารทานได้นะคะ(ทางที่พักเตรียมเตาถ่านและอุปกรณ์ทำครัวไว้ให้ค่ะ) และนี่ก็คือที่พักของเราค่ะ
เราและเพื่อนๆค้างคืนที่นี่1คืนค่ะ อากาศหนาวมากกกกก(มีฝนตก) และในตอนเช้าของอีกวันก็มีเพื่อนบางส่วนของพวกเราที่ตื่นไปดูการเก็บผักของชาวบ้านแถวนั้น(เพื่อนบางส่วนยังไม่ตื่นค่ะเพราะอากาศดีมากๆ)เจ้าของบ้านพักบอกเราว่าส่วนใหญ่เป็นชาวเขาและลาวหล่ม พวกเขาจะเก็บผักกันทั้งวันโดยจะมีรถมารับผักเข้าไปขายในตลาดค่ะ
พอสายๆหน่อยกลุ่มของเราก็ได้เดินทางกลับโดยรถยนต์รับจ้าง(เหมือนเดิมแต่ไม่ใช่เจ้าเดิม)ค่าบริการจากที่พักลงมาถึงท่ารถนครไทยอยู่ที่1200บาทค่ะ
แล้ว
.
เรา
.
ก็
.
เดิน
.
ทาง
.
ถึง
.
โดย
.
สวัสดิภาพค่าาา
สำหรับการเดินทางไปภูหินร่องกล้าสามารถไปได้2เส้นทางค่ะ นั่นก็คือ
1. จากพิษณุโลกใช้ทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก ถึงสามแยกบ้านแยง แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2013 มีป้ายบอกทางแยกขวาไปอำเภอนครไทย ก่อนถึงตัวอำเภอนครไทย มีทางแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2331 ผ่านบ้านห้วยตีนตั่ง-บ้านห้วยน้ำไซ-ฐานพัชรินทร์ สู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สภาพเส้นทางสูงชัน คดเคี้ยวเป็นบางช่วง รวมระยะทางจากพิษณุโลก 120 กิโลเมตร
2. จากเพชรบูรณ์ตามทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านอำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า บ้านวังบาล บ้านเหมืองแบ่ง บ้านแม้วทับเบิก ถึงอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง ค่อนข้างสูงชันกว่าเส้นทางแรกและคดเคี้ยวมาก ควรใช้รถสภาพดีมีกำลังสูงและใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
และสำหรับบ้านพักนะคะทางอุทยานฯ มีบ้านพักไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ประมาณ 23 หลัง ราคา 800-2,400 บาท, ค่ายพักแรม พักได้ 15 คน ราคา 1,500 บาท และมีเต็นท์ให้เช่า ราคา 200-600 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร. 0 5523 3527 หรือสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th หรืออาจจะหาที่พักที่เป็นโฮมสเตย์ได้เองตามเว็บไซต์ต่างๆนะคะ และนี่คือเบอร์โฮมสเตย์ที่เราไปพักค่ะ(บ้านเพ็ญนภา)ถ้าสนใจก็ติดต่อได้เลยนะคะ 0928518359 (พี่อ้อย)
และสุดท้ายทางเราและเพื่อนๆก็ขอขอบคุณ
คุณลุงสมัคร ทองแซก(ลุงหมัก) ที่ได้ให้ข้อมูลต่างๆที่เป็นความรู้เกี่ยวกับหมู่บ้านร่องกล้ากับพวกเรา
พี่ไกด์ธิติภัทร แซ่ซ่ง ที่นำทางให้พวกเราและให้คำแนะนำ+ความรู้ตามจุดต่างๆ
ขอบคุณมากๆเลยค่าาา
สุดท้ายนี้พวกเราก็ขอฝากเพจนี้ไว้ด้วยนะคะ ในเพจนี้จะคอยอัพเดตข้อมูล รูปและกิจกรรมชิงรางวัลต่างๆเกี่ยวกับภูหินร่องกล้าให้ร่วมสนุกด้วยค่ะอย่าลืมไปกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ^^ https://www.facebook.com/gibgiwtravelxphuhinrongkla/
และอย่าลืมนะคะถ้าพูดถึงภูหินร่องกล้ารบกวนช่วยกันติดแฮชแท็ก #ใครไม่กล้าภูหินร่องกล้า เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่ง่ายและเป็นประโยชน์ต่อการหาข้อมูลของผู้ที่สนใจนะคะ
อ้างอิง
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆค่ะ
ตอบลบน่าไปมากๆเลยค่ะ เดี๋ยวว่างๆคงต้องลองซะแล้ว
ตอบลบอยากไปอยู่เหมือนกัน ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่ะ😊
ตอบลบหูวววววว กำลังหาข้อมูลอยู่พอดี
ตอบลบ